สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ร้อยละ 2 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังถูกปัญหาไวรัสซ้ำเติมจากปัญหางบประมาณฯ และภัยแล้ง

วันนี้ (17 ก.พ.2563) นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ปัญหาความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 การชะลอตัวภาคการส่งออก ภัยแล้ง กระทบเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ของปี 2562 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.6 แต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ในช่วงตรุษจีน ทำให้ สศช.ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งปี 2563 จากร้อยละ 2.7-3.7 เหลือร้อยละ 1.5-2.5 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 ปี

ทศพร ศิริสัมพันธ์

COVID-19 ยืดเยื้อกระทบจีดีพีโตต่ำ

ภายใต้สมมติฐาน ที่สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัส คลี่คลาย และสิ้นสุดภายในเดือน พฤษภาคม ปีนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเดินทางท่องเที่ยวไทย ทั้งปี 37 ล้านคน และการส่งออกขยายตัวร้อย 2 รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ สามารถเบิกจ่ายงบประมาณ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 91

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกของปี 2563 อาจขยายตัวต่ำสุด ถึงขั้นติดลบ และค่อยๆ ฟื้นตัว ตั้งแต่ไตรมาส 2 และขยายตัวสูงสุดในไตรมาส 4 ของปี แต่หากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ยืดเยื้อนานกว่าเดือนมิถุนายน การส่งออกและการเบิกจ่ายงบประมาณ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยทั้งปีอาจต่ำกว่าร้อยละ 1.5

กระทบรายได้ท่องเที่ยว 1.5 แสนล้าน

นายทศพร กล่าวอีกว่า ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์รายได้ท่องเที่ยว ที่เคยเป็นปัจจัยหลักพยุงเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่ปี 2562 ลดลงประมาณ 150,000 ล้านบาท ในปี 2563 อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตทั่วโลก รวมทั้งไทยจำเป็นต้องใช้มาตรการการเงินและการคลังเพิ่มเติม ประกอบกับความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้ง ทำให้คาดการณ์ว่าจีดีพีภาคเกษตรปีนี้อาจลดลงจากร้อยละ 6.5 เหลือร้อยละ 5

สศช.ยังคาดการณ์ว่าปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส กระทบเศรษฐกิจจีนลดลงร้อยละ 0.5 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1 และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ลดลงร้อยละ 0.1 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดสิ้นสุดภายในช่วง 4 เดือนนี้