“พุทธิพงษ์”เร่งดันไทยดิจิทัลฮับอาเซียน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า วันที่ 23 ส.ค. จะไปตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายให้กับคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
เบื้องต้นจะมอบนโยบายให้ไปรษณีย์ศึกษาการรีแบรนด์ หรือการปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติภายในองค์กรแบบทุกมิติ รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนวิสัยทัศน์ หรือเปลี่ยนวิธีคิด เพื่อให้คนในองค์กรร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรให้เข้าถึงเป้าหมาย นอกจากนี้ จะขอตามความคืบหน้า การสอบข้อเท็จจริงการปรับปรุงที่ทำการไปรษณีย์คูคต กรณีการติดตั้งพัดลมและการก่อสร้างตู้ไปรษณีย์ยักษ์ เป็นต้น
เนื่องจากได้สั่งการให้กรรมการผู้จัดการใหญ่รายงานความคืบหน้าภายใน 7 วัน ซึ่งขณะนี้ครบกำหนดแล้วแต่ยังไม่ทราบผลสอบสวน “ข้อมูลที่ผมรู้มาคือ รายได้ไปรษณีย์ลดลงมาก ขณะที่คู่แข่งเอกชนรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ทั้งที่ไปรษณีย์มีจุดเด่นมากมาย มีเครือข่ายทั่วประเทศ บุรุษไปรษณีย์รู้จักทุกหมู่บ้าน รายได้ที่ลดลงมันต้องมีอะไรที่ผิดพลาดและต้องแก้ไข ผมเชื่อว่าพนักงานทุกคนไม่ต้องการเห็นรายได้ลดลง ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลประกอบการไปรษณีย์ช่วง ม.ค.-มิ.ย.62 มีรายได้ 14,087 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1,734 ล้านบาท มีกำไร 1,060 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1,059 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการส่งด่วนพิเศษ (อีเอ็มเอส) ในประเทศลดลง เพราะมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก คู่แข่งขยายจุดบริการและกำหนดค่าบริการต่ำ
นอกจากนี้ นายพุทธิพงษ์ยังได้เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เร่งดำเนินการตามนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมและอุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นดิจิทัลฮับของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการพัฒนาโครงการ “Thailand Digital Valley” หรือไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเลย์ ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวว่า เป้าหมายของไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเล่ย์ คือการพัฒนาระบบนิเวศที่เข้มแข็ง เอื้อต่อการลงทุน โดยเชื่อมโยงบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของโลกเข้ากับ Digital Startup ด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการรังสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ก่อนนำไปสู่การทดสอบ ทดลองและก้าวเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ต่อไป นอกจากนี้ ไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเลย์จะเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาค อีกทั้งช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับประชาชนไม่น้อยกว่า 30,000 ตำแหน่งในอนาคต.